“My Autumn my Seoul”  day 3 

วันแห่งเกาะ (นามิ) สายน้ำ และความหนาวเหน็บ

วันนี้ต้องตื่นตั้งแต่ ตี5 (น้ำตาไหลแพร๊บ ยังไม่หายเมื่อยขาเลย) เพราะนัดกัน 06.00 น ค่ะ วันนี้เราจะไปเกาะนามิกัน

เดินทางโดย รถไฟ ต่อรถไฟ ต่อแท็กซี่ สิริรวมประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็มาถึงท่าเรือสู่เกาะนามิแล้วค่ะ

มาดูกันว่าคนที่ไม่ได้ดูซีรี่ย์เกาหลีแบบเรา (ในความทรงจำที่เคยดูมีแค่ full house กะ my girl แค่นั้น ไม่ต้องพูดถึง Autumn in my heart, winter love song หรือ coffee prince เลย) ไปแล้วจะรู้สึกยังงัยกับเกาะนามิกันนะคะ

เกาะนามิเค้าก็จะมีความมุ้งมิ้งของเค้า เค้าเรียกตัวเองเหมือนเป็นประเทศเล็กๆ ชื่อว่า สาธารณรัฐนามินารา (Naminara republic)เรียกคนบนเกาะว่า นามินาเรี่ยน (Naminarian) ก็น่ารักดีนะคะ ตั๋วเรือเค้าก็เขียนว่าเป็น entry visa ตอนลงเรือก็จะประดับธงหลายประเทศเลยเสมือนว่าชาวนามินาเรียนยินดีต้อนรับชาวต่างชาติค่ะ

ชาวนามิยินดีต้อนรับทุกท่าน

ชาวนามิยินดีต้อนรับทุกท่าน

 

คู่มือสำหรับนักเดินทาง ภาษาไทยก็มีนะคะ บอกถึงความฮิต!

คู่มือภาษาไทยก็มีน้า

คู่มือภาษาไทยก็มีน้า

มุมที่โชว์บนตั๋วเรือนี่อยู่ไหนนะ นี่ล่ะเป้าหมายของวันนี้

ถึงเกาะแล้ว เราเดินเล่นกันไปเรื่อยๆค่ะ มาถึงแต่เช้า คนยังไม่เยอะ เจอกระรอกด้วย วิ่งไปมาหลายตัวเลย

ใบไม้เหลืองแดงเต็มอิ่ม

ใบไม้เหลืองแดงเต็มอิ่ม - เกาะนามิ

ใบไม้เหลืองแดงเต็มอิ่ม – เกาะนามิ

ใบไม้เหลืองแดง ฟินเฟร่อ

ใบไม้เหลืองแดง ฟินเฟร่อ

ข้อดีอย่างมากของการมาแต่เช้า (ลงเรือรอบแรกๆของวันเลย) คือ เรามีโอกาสได้เห็นแม่คะนิ้งบนไม้แดงค่ะ ฟินมาก ถ่ายรูปไว้ได้ด้วย เป็นเหมือนใบไม้แดงเคลือบน้ำตาลไอซิ่ง สวยปลื้มมมมม 555 พอสายๆแดดเริ่มแรงแม่คะนิ้งก็ละลายหมดแล้วค่ะ

ใบไม้เคลือบน้ำตาลไอซิ่ง :)

ใบไม้เคลือบน้ำตาลไอซิ่ง :)

 

ข้อดีของการตื่นเช้า

ข้อดีของการตื่นเช้า

เห็นแล้วยอมเลย ดีใจมากที่ยอมตื่นตั้งแต่ตี5ค่ะ

 

ถัดจากโซนใบไม้แดงและการวิ่งตามกระรอกแล้ว เรามาหาโซน signature กับการมีใบแปะก๊วยเป็นทิวแถวเหลืองอร่ามกันค่ะ

ต้องเดินผ่านโซนร้านอาหารร้านขนมไปก่อน ระหว่างทางก็พบว่าคนเกาะนี้ แม้กระทั่งลุงกวาดใบไม้ เค้ายังมีความมุ้งมิ้งโรแมนติกในหัวใจเลยเนาะ

แม้กวาดใบไม้ ยังมีความมุ้งมิ้ง

แม้กวาดใบไม้ ยังมีความมุ้งมิ้ง

 

และแล้วก็มาถึงแล้วค่ะ แนวแปะก๊วยเหลื๊องเหลือง และมีใบแปะก๊วยที่ร่วงหล่นแล้วกลายเป็นพรมสีเหลืองเช่นเดียวกัน

มุมนี้ล่ะ ที่เราตามมา

มุมนี้ล่ะ ที่เราตามมา

 

งามจริงอะไรจริงอย่างในภาพ (แต่ดูจะโรยกว่าในภาพหน่อย เพราะใบเริ่มร่วงแล้ว) แต่เราเองเดินทำมิวสิคอยู่ได้แป๊บเดียวก็ต้องขอยอมแพ้ค่ะ เราแพ้กลิ่นของแปะก๊วย ไม่แน่ใจว่าเป็นกลิ่นของใบแปะก๊วยที่ร่วงหล่นแล้วหรือของเม็ด/ลูกแปะก๊วยกันแน่ ที่แน่ๆเราขอชมความงามจากที่ไกลหน่อยค่ะ เดินอยู่ได้แป๊บเดียว ตอนแรกอยากจะไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ท่ามกลางพื้นเหลืองเพื่อถ่ายรูป แต่ไม่ไหว ถอยร่นไม่เป็นกระบวนตั้งแต่ยังไม่ถึง10นาทีค่ะ แต่สวยจริงไรจริงนะคะ

 

ไปชมมุมอื่นกันบ้าง

 

มุมนี้ที่นามิ เราก็ชอบไม่แพ้กัน

มุมนี้ที่นามิ เราก็ชอบไม่แพ้กัน

แล้วก็เจอแล้วค่ะ รูปปั้นพี่แบยอนจุง แห่ง winter love song ตอนแรกนึกว่าจะมีคนรอต่อคิวถ่ายรูปเยอะซะอีก แต่นี่ไม่มีคิวเลยค่ะถ่ายรูปได้สบายๆ ไม่รู้ว่าเช้าเกิน หรือเค้าเลิกฮิตกันแล้ว?

พี่แบ...

พี่แบ…

 

เดินกันจนใกล้เที่ยง มีมุมถ่ายรูปมากมาย มุมทำซึ้งก็เยอะ เริ่มหิวแล้วค่ะ วันนี้เราตั้งใจมาแล้วว่า เราจะกินปิ้งย่างกัน!!! หมูย่างเกาหลี ไก่ย่างเกาหลี บนเกาะนามิ มากันเล้ยยยย

กินหมูเกาหลี ที่เกาหลี

กินหมูเกาหลี ที่เกาหลี

 

มื้อนี้ 9/10 ค่ะ อร่อยฟิน หัวเหม็นเล็กน้อยแต่อย่าได้แคร์ค่ะ วันนี้ได้โปรตีนโหลดแล้ว เย่ๆ

 

อิ่มแล้วไปไหน จะกลับกันเลยมั้ย ยังก่อนนนนน เราต้องทานขนมและกาแฟกันก่อนค่ะ ร้านสวยๆน่ารักๆที่เกาะนามินี้ก็มีน้า

ร้านกาแฟสวยๆ บนเกาะนามิ

ร้านกาแฟสวยๆ บนเกาะนามิ

 

ร้านกาแฟสวยๆ บนเกาะนามิ

ร้านกาแฟสวยๆ บนเกาะนามิ

 

มอคค่านามิ

มอคค่านามิ

โทสต์กระเทียมชีส (มันควรกินกะวิปครีมเหรอ?)

โทสต์กระเทียมชีส (มันควรกินกะวิปครีมเหรอ?)

 

เราทานมอคค่าค่ะ (8/10) กับโทสต์ขนมปังกระเทียมชีส (7/10 - แอบหวังว่าจะเค็มๆ นี่ติดหวานไปหน่อย)

ชื่อร้านค่ะ

 

ชื่อร้านจ้า

ชื่อร้านจ้า

 

หลังจากอิ่ม อร่อย  อุ่น และอืดกันแล้ว เราก็พร้อมจะจากสาธารณรัฐนามิไปแล้วค่ะ ขาเดินกลับออกจากเกาะ เราสวนทางกับผู้คนประมาณล้านแปด พอถึงท่าเรือก็พบกับกองทัพรถทัวร์ โอ้ว! ขอบคุณเพื่อนผู้จัดโปรแกรม ที่แนะนำให้ออกเช้าเพื่อมาให้ทันเรือรอบแรกหรือรอบสองก่อนทัวร์ลง (เรือรอบแรก 07.30 น.ค่ะ) ไม่งั้นเราคงไม่ได้เห็นแม่คะนิ้ง และไม่ชิลล์ ไม่รีแลกซ์ได้ขนาดนี้

 

ขากลับหลับบนรถไฟพองาม แล้วเรามาแวะเที่ยวต่อกันค่ะ ที่นี่ วัดพงอึนซา

วัดพงอึนซา

วัดพงอึนซา

ขาออกจากสถานีรถไฟ จะผ่าน SM Town และเดินผ่านตึกหน้าตาประหลาดๆแบบนี้นะคะ (ตึกอยู่ทางขวามือ)

 

เดินผ่านตอนทางไปพงอึนซา

เดินผ่านตอนทางไปพงอึนซา

นั่นคือแปลว่าท่านมาถูกทางแล้ว

 

เข้าวัดกันค่ะ หน้าวัดตามธรรมเนียมจีนก็จะต้องมีทวารบาลทั้ง 4 ที่นี่ก็มีค่ะ

จตุรทวารบาล

จตุรทวารบาล

 

จตุรทวารบาล

จตุรทวารบาล

แต่หน้าตารูปปั้นทวารบาลของเกาหลีนี่เราว่าดูดุดันน้อยกว่าที่เห็นที่จีน  ฮ่องกง และญี่ปุ่นนะคะ

 

เดินขึ้นไปบนวัด สักการะเจ้าแม่กวนอิม

เจ้าแม่กวนอิม แห่งวัดพงอึนซา

เจ้าแม่กวนอิม แห่งวัดพงอึนซา

หันหลังกลับมา มองวิวเมืองจากมุมสูงของวัด รู้สึกได้ถึงความสงบท่ามกลางเมืองใหญ่ค่ะ

ความสงบท่ามกลางเมืองใหญ๋

ความสงบท่ามกลางเมืองใหญ๋

นั่งพักให้ใจสงบร่มเย็นชั่วครู่ แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ เป้าหมายต่อไป ชอปปิ้ง & LINE store ค่ะ ที่ถนนคาโรซูกิล (Garosu-gil)

ที่ถนนนี้ ชาวคณะเราได้มากันคนละนิดคนละหน่อย ทั้งเสื้อ ทั้งหมวก ผ้าพันคอ พอกรุบกริบค่ะ

LINE friends store สาขานี้คือทั้งตึกเป็น LINE เลยค่ะ ไม่ใช่ Pop up store ในห้างทั่วไป ไม่ไก่กาอาราเร่แน่นอน

ชั้น 1 เป็นข้าวของเครื่องใช้ ตุ๊กตา ตามแบบฉบับ LINE มากันพร้อมหน้าทั้ง Brown, Cony, Sally, James และ Moon

LINE friends Cafe & Store

LINE friends Cafe and Store

 

LINE friends cafe and store

LINE friends cafe and store

กรี๊ด มุ้งมิ้งน่ารักมาก

กรี๊ด มุ้งมิ้งน่ารักมาก

ชั้นสองจะเป็นเสื้อผ้าค่ะ

ชั้นสองก็น่ารัก

ชั้นสองก็น่ารัก

 

น่ารักไปหมดเลย

น่ารักไปหมดเลย

กลับลงมาชั้นใต้ดิน B1 ครึ่งนึงจะเป็นขายข้าวของเครื่องใช้ accessories

 

ชั้นล่างสุด ก็ยังมีขุมสมบัติ

ชั้นล่างสุด ก็ยังมีขุมสมบัติ

อีกครึ่งหนึ่งจะเป็น Line Cafe ค่ะ

 

LINE cafe

LINE cafe

 

Line Cafe

Line Cafe

เป็นที่น่าเสียดายว่าเรามีเวลาไม่มาก (มัวแต่ซื้อของไม่เหลือเวลากิน) และอีกแป๊บเดียวก็จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว (พุงจุไม่หมดแล้ว) เราจึงได้แค่มาการงหน้าหมีบราวน์ โคนี่ และแซลลี่มาอย่างละชิ้น เท่านั้นเองค่ะ

 

น่ารักม้ายยยยย

macaron LINE friends

macaron LINE friends

แกะห่อออกมาแล้ววววว

macaron บราวน์ โคนี่ และแซลลี่

macaron บราวน์ โคนี่ และแซลลี่

นุ้งหมีบราวน์เป็น macaron รสชอคโกแลต

โคนี่ เราว่าเป็นมาการงสตรอเบอร์รี่ เพื่อนว่าเป็นราสเบอร์รี่

ส่วนแซลลี่ เพื่อนว่าเป็นมาการงรสมะม่วง เราว่าเป็นรสส้ม555

ไม่ว่าจะเป็นรสอะไร สรุปว่าอร่อยทุกรสค่ะ

 

ไปทานข้าวเย็นกันต่อ วันนี้ต้องทำเวลาซักนิด เพราะเดี๋ยววางโปรแกรมกันว่าจะกิน Coffee Smith แล้วไปดูน้ำพุสายรุ้งริมแม่น้ำฮันกันตอน 21.30

มื้อเย็นวันนี้เป็นไก่… อะไรหว่า เรียกชื่อไม่ถูก เพื่อนบอกว่าเป็นร้านของดาราเกาหลีค่ะ

พนักงานในร้านสื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยมาก งงกันอยู่พักใหญ่กว่าจะสั่งได้สำเร็จ เอาอีกแล้ว สั่ง small size 1 จานกินกัน 4คนไม่ได้ ไม่อนุญาต ต้องสั่ง big size 1 จานหรือไม่ก็สั่ง small size 2 จานค่ะ

ไก่อะไรหว่า ลืมชื่อละ

ไก่อะไรหว่า ลืมชื่อละ

 

จานแรก ไก่ผัดแกงกะหรี่ เผ็ดร้อน เผ็ดกว่าระดับ normal ของ cocoichibanya บ้านเรานะคะ เรานี่แสบท้องเลย

จานที่สอง ไก่ผัดอะไรก็ไม่รู้ อันดับแรกในเมนูเลย เพิ่มชีสสสสส

 

ไก่อะไรหว่า เพิ่มชีส

ไก่อะไรหว่า เพิ่มชีส

จานนี้ไม่เผ็ดค่ะ แต่เราว่าติดหวานไปนิด

สรุปกินกันสี่คน เหลืออย่างละครึ่งจาน 555 คนเกาหลีนี่เค้ากระเพาะใหญ่อ่ะ

เพื่อนว่าอร่อยค่ะ นางชอบ

บอกจัดจ้านดี (โดยเฉพาะจานแรก) ส่วนเรา รู้สึกว่าไม่ใช่แนว ให้ 6/10 ค่ะ

ไปต่อกันแบบ speed ที่ Coffe Smith (เป็นอะไรกับหมอโอ๊ค? ;p)  สาขานี้บรรยากาศดีค่ะ เราว่าถ้ามานั่งชิลล์ๆช่วงบ่ายนี้ใช่เลย

เวลาน้อย สั่งมานิดเดียว เดี๋ยวดูน้ำพุไม่ทัน

ชอคโกแลตร้อนค่ะ (7/10)

Coffe Smith

Coffe Smith

อีกเมนู ที่เค้าบอกว่าขึ้นชื่อ คือ น้ำแข็งใสชาเขียว โปะด้วยไอติมชาเขียวค่ะ ดังรูป

บิงซู คอฟฟี่ สมิธ

บิงซู คอฟฟี่ สมิธ

 

ความรู้สึกเมื่อแรกกิน 7/10 ค่ะ รสชาติเฉยๆตามมาตรฐาน ไม่แย่แต่ก็ไม่ว้าว เพื่อนร่วมวงก็คิดเหมือนกันค่ะ แต่พอเกล็ดน้ำแข็งหมด ไอติมหมด ด้านล่างของถ้วยเป็นวาไรตี้ออฟถั่วค่ะ mixed nut กลายเป็นสวรรค์ของเราไปเลย (สวรรค์ของเราคนเดียวนะคะคนอื่นเฉยๆ เราชอบกินถั่วอ่ะค่ะ) มีทั้ง almond hazelnut peanut เรานี่ฟินอยู่คนเดียว คะแนนพุ่งขึ้นมาเป็น 9/10 ค่ะ แต่เพื่อนคนอื่นๆบอกเฉยๆเหมือนเดิม 555 ความอร่อยมันแล้วแต่ความชอบและรสนิยมจริงๆเนาะ

ไม่สามารถละเลียดกินได้นานเพราะต้องรีบเรียกแท็กซี่ไปริมแม่น้ำ Han เพื่อดูโชว์น้ำพุสายรุ้งรอบ 21.30 ค่ะ ออกจากร้านกันประมาณ 21.00 เรียกลุงแท็กซี่ข้างทาง สื่อสารกันประมาณนึงเพราะลุงไม่เข้าใจภาษาอังกฤษค่ะ

(TIPS - บทเรียนบทที่1; ถ้าจะเรียกแท็กซี่ที่ต่างประเทศ ควรเตรียมที่อยู่หรือชื่อเรียกของที่ๆนั้นเป็นภาษาเขียนในประเทศนั้นๆมาด้วยค่ะ รอบนี้ตอนแรกคิดว่าเอาแค่รูปให้เค้าดู เค้าไม่เข้าใจค่ะ ต้อง search หาภาษาเกาหลี+สื่อสารภาษามือกันวุ่นวายพอควร)

ค่าแทกซี่ที่โซลไม่แพงนะคะ เมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวเมืองอื่นๆ

แต่ฝีมือคนขับแทกซี่นี่สิ ขอช็อคแพร๊บ เมื่อวานที่นามิก็ว่าขับซิ่งแล้ว คุณลุงคนนี้ Fast and Furious ยิ่งกว่า เลี้ยวแบบไม่ชะลอเปลี่ยนเลนได้ในชั่วพริบตา ตอนคุณลุงส่งถึงที่หมายนี่ดีใจมากๆ (ที่ได้ลงจากรถคุณลุงซะที) #ถอนหายใจแรงๆ3รอบ

 

และแล้วเราก็มาถึงสะพาน… ริมแม่น้ำฮันก่อนเวลา 10 นาทีค่ะ หนาวบรึ๋ยมาก อากาศเป็นองศาเลขหลักเดียว แถมมีลมโกรกอีก ริมแม่น้ำนี่นา ลืมคิดไป ลืมเตรียมของมาให้พร้อมกว่านี้ ตอนนี้เมื่อตะกี๊ซื้ออะไรใหม่มาบ้างเอามาห่อร่างโพกหัวหมดเลยค่ะ555

 

เรามาถูกที่รึป่าวนะ ทำไมเงียบๆ แต่ก็มีคนพร้อมขาตั้งกล้องมายืนรออยู่รวมๆกัน 10 กว่าคน คงถูกที่แล้วล่ะ ว่าแล้วก็ยืนหนาวต่อไป

 

10นาทีผ่านไป 21.30 น.แล้ว ริมน้ำไม่ไหวติง เงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหว เอ แต่ใน guidebook เค้าบอกมีรอบ 21.30 และ 22.00ด้วยนะในวันศุกร์ อาจมาเลทนิดๆ รอต่อไป

 

ผ่านไปอีก 10 นาที เงยหน้ามองรอบตัว คนที่ตั้งกล้องด้านซ้ายมือหายไปแล้ว เค้าไปไหนอ้ะ แล้วก็ทนต่อไป เอาน่ารอบ 4 ทุ่มก็ได้ ไหนๆก็ทนหนาวมา20นาทีแล้ว

 

ผ่านไปอีก5นาที อ้าวเนี่ยคนที่ตั้งขาตั้งกล้องด้านขวามือก็หายไปหมดแล้ว ไม่ไหวละ เพื่อนมองซ้ายขวาพบโอปป้าอีกคนกำลังจะถีบจักรยานออกจากโซนริมน้ำไป รีบเข้าไปถาม โอปป้าบอกว่า วันนี้คงหมดแล้วล่ะยูว์ รอบสุดท้าย 21.00 น. (แล้วตอนนี้ 21.45ทำไมโอปป้ายังอยู่ตรงนี้คะ? โอปป้าก็คิดว่ามีเหมือนหนูชิมิล่า) มาใหม่พรุ่งนี้นะ

 

อ่ะเคร กลับก็กลับ guidebook and internet คุณหลอกดาว!

เดาว่าเวลาในแต่ละปีคงไม่เหมือนกันมั้งคะ คงแล้วแต่ทางการว่าปีไหนเค้าจะแสดงกี่โมงบ้าง เพราะน้ำพุสายรุ้งนี้มีแสดงเฉพาะตามฤดูกาล งดโชว์ในหน้าหนาว ซึ่งจะแสดงวันสุดท้ายของปีนี้คือวันที่ 31ตค2015 ค่ะ …และ วันที่เรามากัน คือวันที่ 30ตค2015แล้ว โอ้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ยังให้เรามีโอกาสได้แก้ตัวในวันสุดท้าย

(TIPS - บทเรียนบทที่2; การแสดงหรือโชว์ใดๆ ถ้าจัดแสดงแบบเป็น seasonal ไม่ได้มีทุกวันตลอดทั้งปี อาจปรับเปลี่ยนจากหนังสือท่องเที่ยวหรือรีวิวที่เราอ่านมาแล้วได้ ควรเช็คกับ website official ของสถานที่นั้นๆหรือเว็บอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง)

 

แต่แม้ในความผิดหวัง ก็ไม่ถือว่าเป็นโชคร้ายนะคะ พวกเราพบว่าโอปป้าที่เราเข้าไปถามนั้น ใจดีมาก โอปป้าเป็นช่างภาพ เมื่อรู้ว่าเรามาไกล ตั้งใจมาดูน้ำพุ และอกหัก โอปป้าเลยให้ของปลอบใจเป็น postcard ภาพถ่ายของโอปป้าเอง ใส่ซองอย่างดี ให้พวกเราทุกคน คนละ 5 แผ่น ไม่คิดตังค์ซักบาท โอปป้าใจดีมากๆเลย ขอบคุณไปสามรอบเห็นจะได้ อย่างน้อยถึงผิดหวังเราก็ได้เจอน้ำใจดีๆค่ะ โอปป้าบอกด้วยว่าพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะ 20.00 มีแน่ๆ

 

โปสการ์ดของโอปป้าผู้ใจดี

โปสการ์ดของโอปป้า

โปสการ์ดของโอปป้า

 

โปสการ์ดของโอปป้า

โปสการ์ดของโอปป้า

 

และแล้ววันนี้นอกจากผิดหวังร่วมกันแล้ว เราก็ยังมีกิจกรรมที่ทำให้รักกันมากขึ้น คือเดินฝ่าความหนาว (เหน็บ มือชา หน้าไร้ความรู้สึก) ไปหาสถานีรถไฟด้วยกัน เพราะจากริมแม่น้ำ ช่วงใกล้สี่ทุ่ม ไม่ค่อยมีแท็กซี่แล้วค่ะ รถบัสก็ไม่แน่ใจสาย เอาวะเดินนี่ล่ะ มากัน4คน ช่วยกันดูแลดูความปลอดภัยให้กันและกัน เดินกันเข้าไป ระยะน่าจะเกือบๆ 2 กม ในบรรยากาศหนาวลมโกรก ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตดีค่ะ สนุกดี

กลับถึงห้องวันนี้ชอปปิ้งเมียงดงไม่ไหวล้าวววววว ราตรีสวัสดิ์