“My Autumn my Seoul” Day 2 : 

วัดชอเกชา-หมู่บ้านโบราณ Bukchon-พระราชวังชางด๊อกกุง-สวนลับ Secret garden-O’Sulloc Tea house-LED Rose garden-ทงแดมุน

My Autumn My Seoul Day 2

My Autumn My Seoul Day 2

วันแห่งการเดิน ทุบสถิติกันไปเลย

เช้าวันที่สองในโซล เมื่อคืนหลับเต็มตื่นกันดี วันนี้เราจะไปหมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน พระราชวังชางด๊อกกุง และสวนลับ secret garden กันค่ะ วันนี้บอกเลยว่าเน้นเดิน!!!

เติมพลังกับกาแฟ Starbucks

ออกจากที่พักกันตั้งแต่เช้า เติมพลังและคาเฟอีนกันก่อน ร้านแรกที่เข้าขอมาสักการะเจ้าที่ก่อนค่ะ คือ Starbucks 555 แบบขอมาเจอเพื่อนที่คุ้นเคยที่รอต้อนรับเราอยู่ทั่วโลก Starbucks ที่นี่เค้ารับเมนูแล้วจะไม่เขียนลงบนแก้ว แต่จะ print ออร์เดอร์ติดแบบนี้ค่ะ เพิ่งเคยเห็นแฮะ

 

Starbucks เกาหลี รับออร์เดอร์แล้ว print ติด ไม่เหมือนที่เคยเจอมาในหลายๆที่เลย

Starbucks เกาหลี รับออร์เดอร์แล้ว print ติด ไม่เหมือนที่เคยเจอมาในหลายๆที่เลย

อิ่มอุ่นท้องกันแล้ว ออกเดินกันต่อค่ะ วันนี้เราเดินต๊อกๆตามแผนที่(จริงๆคือเราเดินตามเพื่อนผู้วางแผนทริปตะหาก) เพื่อจะไปหมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน (ฺBukchon Hanok Village) ระหว่างทางไปพบเข้ากับเจ้านี้ สถานที่แห่งนี้ประดับดอกไม้เรียกว่าสวยสะดุดตา เลยขอแวะเข้าไปกันก่อนค่ะ

เทศกาลประดับดอกไม้ สวยมากๆ

เทศกาลประดับดอกไม้ สวยมากๆ

นี่หรือคือวัด โอ้ว วัดชอเกชา (Amazing Jogyesa)

เมื่อเข้าไปแล้วถึงได้รู้ว่า นี่คือวัด!!! ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ คือประดับดอกไม้จัดแต่งแบบสวยมาก เว่อร์วังอลังการ เข้าไปแล้วมีความสุขมาก ค่าเข้าฟรีอีกต่างหาก

 

เทศกาลประดับดอกไม้ ในบริเวณวัดชอเกชา (Jogyesa)

เทศกาลประดับดอกไม้ ในบริเวณวัดชอเกชา (Jogyesa)

แต่ก็ดีค่ะ พอเป็นวัดก็สามารถเดินหามุมถ่ายรูปสวยๆได้แบบเงียบๆ สงบๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านหรือเสียงดังเท่าไหร่ ก่อนกลับออกจากวัดก็เข้าไปสักการะพระพุทธรูปภายใน วัดนี้ชื่อวัด ชอเกชา (Jogyesa) เพื่อนบอกว่าวัดนี้คนไทยเรียกอีกชื่อว่าวัดพระยิ้มค่ะ

 

วัดชอเกชา (Jogyesa)

วัดชอเกชา (Jogyesa)

แต่เราว่าข้างนอกอาคารวัดนี่ยิ้มกว่านะคะ

วัดชอเกชา (Jogyesa)

วัดชอเกชา (Jogyesa)

มีมุมสวยๆให้เลือกถ่ายรูปมากมายเลยจริงๆค่ะ แต่เราต้องไปต่อกันแล้ว

 

หมู่บ้านโบราณบ๊อกชอนแห่งโซล (Bukchon Hanok Village)

เดินมาเรื่อยๆผ่านทางตรงบ้าง ขึ้นบ้างลงบ้าง และคอยนึกทุกๆ 500 เมตรเลย ว่าตรูหลงรึป่าว 555 ทำไมไม่ถึงซะที ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านโบราณบ๊อกชอนแล้วค่ะ ถามเพื่อนว่าหมู่บ้านนี้มันอะไรยังงัย เพื่อนบอกว่าเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมจริงๆที่เค้าอนุรักษ์ไว้ และเป็นฉากที่พี่เต๋อกะหนูนามาเจอจุ๋ยตอนใกล้จบกวนมึนโฮงัย  โอเค!เก็ท!

 

หมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน (Bukchon Hanok Village)

หมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน (Bukchon Hanok Village)

ที่หมู่บ้านนี้เราว่ามุมถ่ายรูปสวยๆน่ะมี แต่ติดคนเยอะแยะ ถ่ายยากหน่อยค่ะ คนเดินกันขวักไขว่ ถ่ายรูปกันเยอะมาก ที่นี่ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำชัดเจน เน้นหามุมถ่ายรูปมากกว่าค่ะ พอเดินครบแล้ว เราก็ไปหาอะไรกินกันหน่อย

หมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน (Bukchon Hanok Village)

หมู่บ้านโบราณบ๊อกชอน (Bukchon Hanok Village)

Street food ที่ได้ลองวันนี้ มีมันเชื่อม กับแพนเค้กเกาหลีค่ะ

Street food แห่งโซล : แพนเค้กเกาหลี

Street food แห่งโซล : แพนเค้กเกาหลี

มันเชื่อมเราว่าหวานไปหน่อย กินหมดอย่างเลี่ยน แต่แพนเค้กเกาหลี ข้างในจะเป็นไส้ถั่วกับน้ำผึ้ง รสชาติใช้ได้ค่ะ

เดินต่อไปจากหิวเล่นๆก็กลายเป็นหิวจริงจัง แวะเข้าร้านอาหารเที่ยงกันเลยค่ะ วันนี้ได้ลองกินจาจั้งเหมวี่ยน (jajangmyeon) แล้ว

 

จาจั้งเหมวี่ยน

จาจั้งเหมวี่ยน

เข้าใจว่าร้านที่เข้าไปคงอร่อยพอควร เพราะพอเรานั่งไม่ถึง 5 นาที ก็มีคนต่อคิวแล้วค่ะ

คหสต. จาจั้งเหมวี่ยนนี่ขาดโปรตีนค่ะ (บะหมี่+ black bean sauce) แนะนำว่าควรสั่งอะไรที่เป็นเนื้อสัตว์มาคู่กันค่ะ ไม่งั้นเราว่าเลี่ยน จานนี้ให้ 6/10

 

พระราชวัง ชางด๊อกกุง (Changdeokgung) &

สวนลับ (Secret garden)

อิ่มมื้อเที่ยงกันแล้ว ไปต่อกันที่พระราชวัง ชางด๊อกกุงค่ะ เดินต๊อกๆๆไปเช่นเคย พระราชวังชางด๊อกกุงและสวนลับ secret garden อยู่ติดกันค่ะ ถ้าอยากเดินเที่ยวชมเองไม่ต้องตามไกด์แนะนำให้มาวันพฤหัสค่ะ เพราะเป็นวันเดียวในสัปดาห์ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างอิสระได้ (แต่ถ้าอยาก follow guide ก็ได้นะคะ จะมีภาษาอังกฤษเป็นรอบๆให้เช็คเวลาอีกครั้งค่ะ)

สองสถานที่นี้ (พระราชวังชางด๊อกกุงและสวนลับ) ขายตั๋วที่เดียวกัน แต่แยกราคากันนะคะ แนะนำให้ซื้อทั้งคู่ค่ะ (สำหรับคนชอบเดินชมสวนและธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนะคะ) ตั๋วเข้าวังเข้าได้เลย แต่ตั๋วเข้าสวนจะมีเขียนกำหนดเวลาไว้ค่ะ เข้าได้เป็นรอบๆ

บรรยากาศในพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung) ค่ะ ค่อนข้างกว้างใหญ่กว่าด๊อกซูกุง (Deoksugung) ที่เราไปมาเมื่อวานพอควรเลยทีเดียว มีห้องหับอาคารให้เรียนรู้หลายแห่งค่ะ

 

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

นี่เป็นเหมือนอาคารออกว่าราชการค่ะ

ภายในจะมีบัลลังก์แบบนี้

 

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

นอกจากนี้ก็ยังมีอาคารอื่นๆที่มีความสำคัญและใช้ประโยชน์แตกต่างกันไป

บรรยากาศมุมอื่นค่ะ

 

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung)

เดินเล่นชมวังกันไปเรื่อยๆ เพลินดี จนถึงเวลาเข้าสวน secret garden แล้วค่ะ

เราได้รอบ 13.30 น.

แอบฟังจากไกด์ภาษาอังกฤษเค้าว่า secret garden นี้คือไม่ได้มีความลับอะไรหรอกค่ะ แต่ secret = private เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชนชั้นสูงในวังเท่านั้น ร่มรื่นสวยงามดีค่ะ

สวนลับ (Secret garden)

สวนลับ (Secret garden)

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

ตรงข้ามตำหนักแดงก็จะเป็นสระมรกต (emerald lake) ค่ะ ช่วงใบไม้แดงงามทีเดียว

 

emerald lake ใน สวนลับ (Secret garden)

emerald lake ใน สวนลับ (Secret garden)

เดินเล่นชมสวนกันต่อค่ะ เราว่าช่วง Autumn ใบไม้เปลี่ยนสีเนี่ย เป็นช่วงที่เหมาะกับการชมสวนมากค่ะ มุมไหนๆก็สวย

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

เดินอย่างเพลิน จริงๆเราเองอยากใช้เวลาในนี้ให้นานกว่านี้ (ความชอบส่วนบุคคล ถามว่ารู้จักต้นไม้อะไรบ้างมั้ย แทบไม่รู้จักชื่อเลยค่ะ รู้แต่ว่าร่มรื่นและสวย มองเพลิน ฟิน) แต่ต้องไปต่อกันแล้วค่ะ เรายังมีที่หมายอื่นต้องไปกันต่อจากนี้

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

สวนลับ (Secret garden) ยามใบไม้เปลี่ยนสี

บ่ายๆท้องร้องอีกครั้ง เราไปหาขนมหวานกินกันเถอะ!!!

O’Sulloc Tea House เค้าว่ามาโซลต้องจัด !!!

ว๊าบมาย่านอินซาดงค่ะ ตามหาร้านชาเขียวชื่อดังแห่ง Seoul ร้าน O’Sulloc ค่ะ เค้าบอกว่าชาเขียวที่นี่นำมาจากเกาะเชจูค่ะ มาชมแชะ  ชิมกันค่ะ

 

O'Sulloc Tea House - Green tea latte

O’Sulloc Tea House – Green tea latte

ชาเขียวลาเต้แห่ง O’Sulloc Tea House

ไม่หวานเกิน ไม่ขมเกิน ไม่ถึงกับเริ่ดมาก โอเคอยู่ค่ะ ให้ 7.5 เต็ม 10 ค่ะ

เมนูถัดไป

 

O'Sulloc Tea House - Tiramisu

O’Sulloc Tea House – Tiramisu

O'Sulloc Tea House - green tea roll

O’Sulloc Tea House – green tea roll

ทิรามิสุชาเขียว และโรลชาเขียว ชอบที่ไม่หวานเกินไปค่ะ ให้ 7.5/10 เท่ากัน

อีกเมนูที่ตั้งใจมาทานคือน้ำแข็งใสท๊อปปิ้งด้วยไอติมชาเขียว วันนี้หมดค่ะ เลยได้ทานเป็น soft cream ชาเขียวแทน

อุปกรณ์การกินค่ะ

O'Sulloc Tea House - Green tea soft cream

O’Sulloc Tea House – Green tea soft cream

ก็คือมีชาเขียวเจ้มจ้น! มาให้ราดบนซอฟท์ครีมอีกที สีตัดกับใบไม้เหลืองแดงที่ไปเห็นมาเมื่อกี๊เหลือเกิน ตอนนี้บนโต๊ะมีแต่ความเขียวแบบ massive!!!

O'Sulloc Tea House - green tea soft cream

O’Sulloc Tea House – green tea soft cream

หน้าตาหลังราดซอสชาเขียวค่ะ สีสวยมากจริงๆ รสเข้มข้นตัดกับรสซอฟท์ๆของซอฟท์ครีม แต่เราว่าจะดีกว่านี้ถ้าเป็นซอสชอคโกแลตหรือซอสถั่วแดง555 ให้ 7.5/10 เท่ากันค่ะ

เมนูสุดท้ายที่ลอง คือ เจ้านี่ (ลืมชื่อไปแล้ว แงๆ)

O'Sulloc Tea House - the last menu

O’Sulloc Tea House – the last menu

คหสต.นะคะ เราชอบเมนูนี้ที่สุดเทียบกับทั้งหมดที่กิน ชาเขียวปั่น โปะด้วยไอติมชาเขียว มีซอสถั่วแดง แถมบราวนี่ชาเขียวเป็นทอปปิ้ง และกรอบๆข้างบนน่าจะเป็นมะพร้าว?หรือข้าว?ซักอย่างทอดกรอบค่ะ เราให้ 8.5/10 เพราะว่ารสชาติค่อนข้างหลากหลายในแก้วเดียว

ช้อปปิ้งโต้รุ่งที่ทงแดมุน (Dongdaemun) ดูดอกไม้(ไฟ)ที่ DDP LED Rose Garden

ตอนนี้อิ่มอืดมาก เราไปเดินย่อยกันต่อนะคะ เป้าหมายต่อไปคือ ชอปปิ้งแถวทงแดมุน และดู DDP Plaza LED Rose garden ค่ะ

มาชอปปิ้งดูของในห้างไฮโซวกันก่อน แวะห้าง Doota! (ทำไมต้องมีเครื่องหมายตกใจ!) ย่านทงแดมุนก่อนค่ะ ระหว่างรอให้ LED Rose garden เปิดไฟ

ในห้างนี้ส่วนใหญ่จะเป็นของมียี่ห้อ ราคาจะค่อนสูงหน่อยค่ะ แต่มี Line friends with Pop up store อยู่ในห้างด้วย แวะมาเล็งของกับดูราคาไว้ก่อนค่ะ ยังไม่ซื้อเพราะมีแพลนจะไป Line Friends Store & Line Cafe ในวันถัดไปค่ะ

Line Friends Store at Doota!

Line Friends Store at Doota!

เดินมาทั้งวัน เมื่อยขามาก ถ้าอยากหาที่พักขาไปนั่งหย่อนขาได้ที่ food court ของห้าง Doota! ชั้น7 ได้นะคะ วิวดีด้วย

หลังจากหายเมื่อยขา และจัดการรองท้อง (อีกแล้ว?) ด้วยข้าวผัดเกาหลี 1 จานกินกัน 4 คน ความมืดเริ่มโรยตัวมา เราพร้อมจะไปต่อกันที่ LED Rose garden แห่ง DDP (Dongdaemun Design Plaza) แล้วค่ะ

 

DDP LED Rose Garden

DDP LED Rose Garden

ถึงจะรู้ว่าเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ ของ artificial แล้วใส่หลอดไฟ LED เข้าไป แต่เมื่อมารวมกันเป็นสวน เป็นร้อยเป็นพันดอก ก็สวยตระการตานะคะ ชอบมากเลยค่ะ ไม่อยากให้พลาด (กล้องมือถือเรากาก แต่จริงๆสวยมากนะคะ)

เดินเย็นๆชมทุ่งดอกไม้กลางเมืองก็โรแมนติกไม่แพ้ใครนะคะ

หลังชมทุ่งดอกไม้+ติดฝนอีกแพร๊บ ท้องก็ร้องอีกแล้วค่ะ แต่บอกตามตรงว่าหมดแรงจะไปยังสถานีอื่นต่อแล้ว เพราะเรามีแพลนจะชอปปิ้งแถวทงแดมุนต่อกันอีกคืนนี้ เลยเดินเล่นเสี่ยงดวงกัน เข้าร้านแถวๆนั้น แล้วก็ได้กินหมูย่างเกาหลี กิมจิจิเก และอุด้งซุปหอยค่ะ

 

กิมจิจิเก

กิมจิจิเก

ร้านอาหารที่เกาหลีนี่มีความแปลกอยู่อย่างนึง คือเราจะสั่งของในปริมาณที่เราต้องการแบบตามใจฉันไม่ได้ทั้งหมดนะคะ ต้องให้ทางร้านอนุญาตด้วย 555 เช่นเราจะสั่งหมู 1 ชุด กิมจิจิเก 1 ชุดนี่ กินกัน 4 คนนี่ไม่ได้ ป้าในร้านบอกหมูต้องอย่างน้อย 2 ชุด จะสั่งเมนูอะไรอีกอย่างแล้วไม่รู้ป้าไม่ให้สั่ง ช่วงนี้อากาศหนาวกินไม่เหมาะ (นี่คือเดาจากท่าจุมม่าเอานะ ฟังไม่ออก) ป้าบอกซุปหอยอุด้งดีกว่า พี่นี่งงครัช แต่ก็ต้องทำตามป้าบอก เดี๋ยวไม่ได้กินซักที จุดนี้หิวมากแล้ว

คะแนนมื้อนี้ หมูย่างเกาหลี 7/10 กิมจิจิเก 8/10 (ไม่เผ็ดเกิน แต่คนชอบรสจัดจ้านคงหักคะแนน) ส่วนอุด้งซุปหอย เอาไปเลย3/10 ไม่ผ่านค่ะ รสชาติอยู่ที่ไหน? 555

อิ่มแล้ว ณ บัดนั้นเวลาสองทุ่ม แต่ชีวิตในหลายห้างแถบทงแดมุนเพิ่งจะเริ่ม แถวนี้มีห้างและตลาดโต้รุ่งค่ะ บางห้างเริ่มตั้งแต่ 10-11 โมง บางตลาดเริ่มเปิด 19.30 น แต่ทั้งหมดนี้ ไปปิดอีกที ตี4-ตี4ครึ่ง (04.00-04.30) คุณมีแรงขาและแรงใจในการต่อราคาแค่ไหน จัดไปเลยค่า

ทงแดมุน ตลาดโต้รุ่งดีๆนี่เอง

ทงแดมุน ตลาดโต้รุ่งดีๆนี่เอง

แก๊งเราเดินมาตั้งแต่7.30น วันนี้เสียค่ารถไฟใต้ดินน้อยมาก เดินๆๆๆตลอดเวลา จุดนี้ แม้อยากจะช้อปโต้รุ่งแค่ไหน ก็ต้องยอมแพ้ไปที่ 22.30 น ค่ะ เอาแรงไว้เดินพรุ่งนี้กันต่อ

ปล.ก่อนหมดวัน ตลาดโต้รุ่งนี้ ต้องต่อราคานะคะ ย้ำ ต้องต่อราคาค่ะ

ปล2. มี street food อีกอย่างที่ได้ชิมแถวอินซาดง เป็นไก่ปิ้งเสียบไม้แบบบาร์บีคิว ราดซอส 1 ไม้ 3000 วอน อันนี้เอาไปเลย 8.5/10 ค่ะ เราว่าอร่อย

ขาก็ลาก แรงก็หมด ตังค์ก็ร่อยหรอ จบวันที่ 2 เลยแล้วกัน แล้วพบกันใหม่วันที่ 3 ค่า

(แอด) มิน  ^^