ห่างหายไปพักใหญ่ เพราะหลายอย่างในชีวิตไม่ลงตัว แต่ยังไม่เลิกเสาะหาที่กิน ที่พักใจใหม่ๆ และท่องเที่ยวไปในโลกกว้างนะคะ :) รอบนี้ติดใจกับร้านนี้ Fill in the blank เลยต้องขอมารีวิวค่ะ

รอบนี้เราเข้ากรุงไป หลักๆเลยคืออยากพักใจจากที่ทำงาน (เราอยู่ต่างจังหวัดค่ะ)
บางคนบอกว่า “คิดจะพัก แต่ไปกรุงเทพฯเนี่ยนะ” ก็แล้วแต่ว่าเราจะไปทำอะไรในกรุงเทพฯเนาะ :) เราเหนื่อยกับงาน และรู้สึกว่ามีความสุขน้อยลง เลยขอไปให้ไกลๆจากที่ทำงานค่ะ รอบนี้เลยไปหาเพื่อน และไม่วางแผนอะไรเยอะเลยกับการเข้ากรุง แค่เจอเพื่อน 1-2 คน แล้วก็กะว่าจะหาที่หย่อนใจ นั่งนานๆ ทอดหุ่ย ปล่อยอารมณ์ แล้วก็กลับ ประมาณนั้น 555

เพื่อนก็แสนจะใจดี ตามใจ ให้เวลาอยู่ด้วยตลอดวันไม่อั้น แถมพาไปเสาะร้านกาแฟใหม่ๆที่ไม่เคยไปอีก รอบนี้พามาที่ร้าน Fill in the blank ค่ะ เดินทางสะดวกใช้ได้เลย ลงรถไฟฟ้าที่สถานี BTS เอกมัย ออกทางออก 1 เดินทางเชื่อมเข้า Major Cineplex แล้วลงมาชั้น 1 ออกจากเมเจอร์แล้วเลี้ยวขวา เข้าซอยสุขุมวิท 61 เดินต่อเข้าไปในซอยอีกประมาณ 500 เมตร จะเจอซอยย่อยเล็กๆ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปอีกค่ะ ก็จะพบกับร้าน Fill in the blank แล้ว (ปากซอยย่อยนี้รู้สึกจะเป็นร้านอีกร้านนึงชื่อร้าน Sheep count นะคะ ตอนเดินผ่านแอบชอบชื่อร้านเหมือนกัน สงสัยเหมาะกับคนนอนไม่หลับ ;p)

ถึงแล้วจ้า Fill in the blank

หน้าร้านก็ชอบแล้วค่ะ

เราบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าการตกแต่งแบบนี้เรียกแบบว่าอะไร รู้แต่ว่าชอบ รู้สึกว่าโทนมันเข้ากันดีหมด เป็นแบบไม้ๆ แต่ก็ไม่ไม้เกิน (เอ๊ะยังงัย) และรู้สึกอบอุ่น ไม่ฉูดฉาด พื้นที่ไม่มากแต่ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

อีกอย่างที่ชอบคือเราเป็นคนชอบร้านที่มี gimmick เล็กๆน้อยๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนหรือ concept ของร้าน และเป็นคนที่ชอบอ่าน ชอบจำ quotes ต่างๆค่ะ ร้านนี้ใช้ gimmick เป็น quotes โอ้ว เข้าทางเลย

บรรยากาศร้านให้ผ่านไปแล้ว มาดูของที่สั่งกันบ้างนะคะ

ที่ร้านมีทั้งอาหารหวานและคาว แต่วันนั้นเราอิ่มจากข้าวเที่ยงไปเต็มพิกัดแล้ว เลยสั่งมาแต่กาแฟและขนมค่ะ

เมนูแรก Signature ค่ะ อันนี้ของเพื่อนสั่ง เป็นกาแฟร้อนทอปปิ้งด้วยวิปครีมอย่างฟู และบราวนี่ชิ้นเล็ก เสิร์ฟพร้อมน้ำเปล่าแก้วเล็กและ quote gimmick รสชาติดีเลยค่ะ (แอบชิมของเพื่อนมา) แต่แคลอรี่นี่ไม่ต้องนับ 555 แต่เนื่องจากมีวิปฟูขนาดนั้นแถมบราวนี่ด้วย ใครที่กะว่าจะกินแก้วนี้ให้ตาสว่างเนี่ย บอกเลยว่าไม่ได้ผลค่ะ อิ่มอุ่นลืมตื่นกันเลยทีเดียว 555
signature coffee @ Fill in the blank

มาถึงแก้วของเราแล้วค่ะ signature เค้าแนะนำก็ไม่สั่ง รั้นจะกินของเดิมๆอยู่นั่น ^_^ เราสั่ง ม็อคค่าปั่น ค่ะ มาด้วยวิปฟูฟ่องเหมือนเดิม และที่สำคัญที่สุด อย่างกับรู้ใจเรา quote บนกระดาษเล็กๆแผ่นที่แนบมากับกาแฟนั้น เหมือนตีเข้ากลางหน้าเราเลยค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้น เรารู้สึกว่าเราสุขน้อยลง หนีงานมาพักใจ เจอกระดาษแผ่นนี้เข้าไป น็อคเลย (แต่ยิ้มได้หลังโดนน็อคนะคะ) If you want to be happy, BE!!! เฮ้ย… จริงด้วย สุขอยู่ที่ใจค่ะ สรุปว่าได้ม็อคค่าเตือนสติ 555 ความสุขกลับเข้าร่างอย่างฉับพลัน
Mocha ปั่น @ Fill in the blank
รสชาติให้ผ่านค่ะ

อีกเมนูเนื่องจากเม้าท์จนกาแฟหมดแล้วก็ยังอยากนั่งชิลล์ต่อ เลยสั่งขนมมาทานกับเพื่อนค่ะ จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่เนื้อเค้กคือเป็น chocolate cheese cake รสชาติผ่านเหมือนกัน ไม่ถึงขั้นอร่อยฟิน แต่ให้คะแนน gimmick อีกแล้ว แหะๆ
chocolate cake @ Fill in the blank
สรุปวันนั้นใช้เวลาเกือบตลอดบ่ายอยู่ที่ร้านนี้ค่ะ Fill in the blank ถามว่าความประทับใจคืออะไร โทนของร้าน บรรยากาศดีๆ รสชาติกาแฟใช้ได้ เพื่อนที่มานั่งชิลล์ด้วย แล้วก็ประโยคเตือนสติค่ะ เรียกสุขเรากลับคืนมา กลายเป็นร้านที่เติมสุขในช่องว่างให้เราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สุดท้าย ราคาไม่เบานะคะ แต่เราว่าคุ้มค่ะ วันหน้าวันหลังคงได้ไปทอดหุ่ยชิมเมนูอื่นอีก :)